เรื่องราวของคนเวียดนามในเยอรมัน!!

วันนี้เราจะมาคุยในเรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่องนึงในประเทศเยอรมันกับคนอีกชนชาตินึงที่เมื่อก่อนถือว่าเป็นชนชาติที่ถือว่ามีจำนวนมากที่สุดในเยอรมันอยู่ช่วงนึง โดยเฉพาะในช่วงของการแบ่งแยกประเทศเป็นสองส่วนของเยอรมนี ก็คือชนชาติเวียดนาม!!

วันนี้เราจะมาคุยในเรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่องนึงในประเทศเยอรมันกับคนอีกชนชาตินึงที่เมื่อก่อนถือว่าเป็นชนชาติที่ถือว่ามีจำนวนมากที่สุดในเยอรมันอยู่ช่วงนึง โดยเฉพาะในช่วงของการแบ่งแยกประเทศเป็นสองส่วนของเยอรมนี ก็คือชนชาติเวียดนาม!!

อาทิตย์ที่แล้วพ่อบ้านมีโอกาสได้คุยกับคนเวียดนามคนนึงแล้วรู้สึกว่าเรื่องราวของชนชาตินี้ถือว่าเป็นชนชาติที่น่าสนใจอีกชนชาตินึง เพราะด้วยความที่ว่าเมื่อเราเดินทางไปในเมืองต่างๆ ของเยอรมนี ก็จะเห็นได้อย่างชัดเจน อย่างเช่น

ถ้าเกิดเห็นร้านอาหารเอเชียเจ้าของร้านก็มักจะเป็นเวียดนาม
ร้านขายของเอเชียหลายๆ ที่ก็เจ้าของก็เป็นเวียดนาม
มีคนเวียดนามทำธุรกิจจน เป็นเจ้าของบ้านหลังใหญ่ มีตึกให้คนเยอรมันเช่ามากมาย เรียกได้ว่าเป็นเศรษฐีก็ไม่น้อยเลยทีเดียว

วันนี้เราจะมารู้จักพวกเค้ากันครับ

ก่อนอื่นเรามารู้จักกันก่อนว่าทำไมคนเวียดนามถึงเข้ามาในเยอรมนีเป็นจำนวนมากจนสมัยก่อนเรียกได้ว่าเป็นชนชาติที่มีจำนวนมากไม่แพ้ชนชาติใด(ปัจจุบันคงต้องยกให้ตุรกีอ่ะเนอะ) โดยสาเหตุหลักๆ ของคนเวียดนามที่เข้ามาที่เยอรมันนั้นมีอยู่ 2 สาเหตุหลักๆ คือ

  1. เข้ามาโดยการอพยพ : ใช่แล้วครับโดยเฉพาะในช่วงสงครามเวียดนามที่ทำให้ประเทศเวียดนามนั้นไม่สงบ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเวียดนามจำนวนมาก โดยเฉพาะชนชั้นมันสมอง อย่างแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ วิศวกร และอื่นๆ ในสมัยนั้นพากันอพยพหนีตายมาที่ประเทศเยอรมนีที่ถือว่าเป็นประเทศที่เป็นมิตรที่ดีต่อกันอย่างเสมอ
  2. เข้ามาหลังการรวมชาติ: สำหรับสาเหตุที่สองก็คือ หลังจากการที่เยอรมนีได้ทำการรวมชาติเป็นหนึ่งเดียวระหว่างเยอรมันตะวันออกและเยอรมันตะวันตกแล้วมีความต้องการแรงงานในการพัฒนาฟื้นฟูประเทศดังนั้นในสมัยดังกล่าวจึงมีการออกวีซ่าและมีการดึงดูดแรงงานจากต่างชาติเข้ามาเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย โปแลนด์ อิตาลี และเวียดนามก็ถือว่าเป็นประเทศนึงที่มีการเข้ามาทำงานในเยอรมนี

จากที่พ่อบ้านได้คุยกับคนคนเวียดนาม เค้าได้บอกว่าคนเวียดนามในเยอรมนีนั้นมีเครือข่ายที่ค่อนข้างแน่นเหนียวเป็นอย่างมาก เพราะหลายๆ คนนั้นรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยอยู่ในค่ายผู้อพยพ (เพราะเจอกันทุกวันอ่ะเนอะ) จึงทำให้หลายคนนั้นสามารถช่วยเหลือกันได้โดยเฉพาะในแนวทางการทำธุรกิจ

ยกตัวอย่างเช่น

  1. คนเวียดนามจะมีการรวมกลุ่มกันหลายๆ ร้านอาหาร แล้วสั่งสินค้าชนิดเดียวกันในปริมาณมากๆ เพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรองกับผู้ค้าส่ง
  2. คนเวียดนามจะมีการส่งข่าวและข้อมูลและมีการติดต่ออย่างเหนียวแน่น และมีชุมชนที่ช่วยหางานเพื่อให้มีงานทำกัน
  3. คนเวียดนามจะมีการสอนภาษาเยอรมันให้กันเองโดยเฉพาะภาษาเยอรมันเพื่อการทำธุรกิจและนอกจากนี้คนเวียดนามยังมีโรงเรียนในการสอนทำอาหารเอเชียและแบ่งปันความรู้และข้อควรระวังสำหรับคนที่อยากเปิดร้านอาหารหรือร้านค้าในเยอรมันอีกด้วย

และนอกจากนี้คนเวียดนามยังมีชื่อเสียงในเรื่องของความขยันที่เรียกได้ว่าไม่แพ้คนจีนเลย และความเป็นมิตรในการทำงานจนทำให้มีหลากหลายบริษัทชั้นนำเราจะเห็นคนเวียดนามอยู่ในหลากหลายตำแหน่งไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่แรงงานจนไปถึงผู้บริหาร แต่ด้วยนิสัยที่รักการค้าขายเหมือนคนจีนเราก็จะเห็นคนเวียดนามจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่เป็นเจ้าของกิจการต่างๆ ในเยอรมนี เรียกได้ว่าตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ ซึ่งมีอีกเรื่องนึงที่น่าสนใจคือ

“ปัจจุบันนี้ร้านเวียดนามเห็นว่าอาหารไทยนั้นเป็นที่รู้จักและนิยมในหมู่คนเยอรมันเป็นอย่างมากเพื่อนพ่อบ้านถึงกับบอกว่าเห็นมีหลายร้านอาหารลงทุนบินไปเรียนการทำอาหารไทยที่เมืองไทยกันเลยทีเดียวเพื่อที่จะมาใช้ในการพัฒนาเมนูอาหารไทยในร้านให้มีรสชาติใกล้เคียงอาหารไทยมากขึ้น”

และถ้าถามว่าบทบาทในสังคมของคนเวียดนามนั้นเป็นอย่างไร ในอดีตเพื่อนพ่อบ้านบอกว่าคนเวียดนามนั้นเมื่อก่อนถือว่ามีภาพลักษณ์ที่ค่อนข้างไม่ดีจากชื่อเสียงในเรื่องของมาเฟียชาวเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันนั้นเรียกได้ว่าหายไปค่อนข้างมากแล้ว เค้าก็บอกว่าเมื่อก่อนเนี่ยมี!!! โดยเฉพาะในช่วงก่อนรวมประเทศ แต่ภายหลังพอเป็นช่วงรุ่นลูกรุ่นหลานขึ้นมา ก็เริ่มมีการค้าขาย และปัจจุบันมาเฟียก็หายไปมากจนเพื่อนพ่อบ้านบอกว่าเมื่อก่อนก็ต้องจ่ายเหมือนกันนะค่าคุ้มครองอะไรเนี่ย แต่ไม่ได้จ่ายมาเป็นสิบๆ ปีและ

Erfurt, Gastarbeiter im Gespräch

ภาพคนเวียดนามในการทำงานที่ Erfort ในปี 1989 Credit : Wikipedia

ซึ่งในปัจจุบันภาพลักษณ์ของชาวเวียดนามนั้นก็ดีขึ้นมากและบทบาทของชาวเวียดนามก็มีให้เห็นได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นที่พวกเค้าจะอยู่แต่ในมุมมืด โดยพ่อบ้านจะลองยกตัวอย่างบุคคลเชื้อชาติเวียดนามที่มีบทบาทในเยอรมันให้ดูนะครับเช่น!!

Philipp Rösler : นักการเมืองชื่อดังที่เป็นฐานเสียงหลักของชาวเวียดนามให้กับพรรค FDP เคยได้รับดำรงตำแหน่งสูงสุดเป็นถีงรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของประเทศเยอรมนี

Philipp_Rösler_2

Philipp Rösler  Credit: Wikipedia

Marcel Nguyen : นักกีฬายิมนาสติกลีลาทีมชาติและทหารเยอรมนี

OT_Berlin_09-13_Marcel_Nguyen.jpg

Marcel Nguyen Credit: Wikipedia

Jenny-Mai Nuyen : นักเขียนหนังสือชื่อดังที่ได้รับความนิยมมากมายของชาวเยอรมัน

Jenny

Jenny-Mai Nuyen Credit: Wikipedia

และมีอีกหลากหลายคนที่เรียกได้ว่าชาวเวียดนามในปัจจุบันนั้นชาวเวียดนามได้มีบทบาทที่เรียกได้ว่าไม่น้อยเลยในสังคมชาวเยอรมัน เพราะคนเวียดนามในปัจจุบันนั้นโดยส่วนใหญ่ได้ถือสัญชาติเยอรมันเป็นที่เรียบร้อย แต่สิ่งที่พ่อบ้านได้รู้คือการที่พ่อแม่ชาวเวียดนามนั้นยังไม่ลืมที่จะปลูกฝังความรู้ทางด้านภาษา, วัฒนธรรม, และความรู้ในด้านต่างๆ ของประเทศเวียดนามให้กับลูกหลานของเขาซึ่งเราจะเห็นได้เลยว่าในร้านอาหารเอเชียจะเห็นว่าเด็กตัวเล็กๆ ก็สามารถพูดภาษาเวียดนามกับพ่อแม่ได้อย่างชำนาญและในทางกลับกันก็สามารถใช้ภาษาเยอรมันได้ขั้นเทพเหมือนกัน

อื้อ หือออ เหมือนพ่อบ้านได้เปิดโลกเหมือนกันนะเนี่ยกับการที่ทุกครั้งที่เราได้มีโอกาสในการได้แชร์ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนชาวต่างชาติ ถ้าใครอยากรู้มุมมองของชาวเวียดนามเพิ่มเติมพ่อบ้านแนะนำให้ลองอ่านบทสัมภาษณ์ของ Philipp Rösler ในบทความ “Vietnam is a part of my life”นี้ดูน่าจะทำให้เห็นอะไรอีกหลากหลายอย่างเลยหล่ะ Link ซึ่งพ่อบ้านคิดว่าชนชาตินี้ก็เป็นอีกชนชาตินึงนะเนี่ยที่สามารถพัฒนาจนเองจากผู้อพยพที่แทบไม่มีเงินติดตัวมาเลย แต่อาศัยความอดทน ความขยัน ความประหยัด และรู้จักลงทุนในการผลักดันตัวเองจนกลายเป็นชนชาติที่ได้รับการยอมรับที่ดีอีกชนชาตินึงในเยอรมัน

แหม่ว่าแล้วพอพ่อบ้านหาข้อมูล ก็อยากให้มีคนไทยก้าวขึ้นมาเป็นนักการเมืองหรือเป็นรัฐมนตรีในประเทศเยอรมนีคงจะเท่ไม่หยอกเลยนะเนี่ย พ่อบ้านเชียร์สุดใจเลยจ้าาาา

แล้วคุณหล่ะมีประสบการณ์เช่นไรกับชนชาตินี้? เอามาแชร์ให้พ่อบ้านฟังหน่อยซิครับ

 

 

 

Leave a Reply

%d bloggers like this: